ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับสาวเจนนี่ ได้หมด ล่าสุดเพจ ธราวุฒิ ขุดประเด็น ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทนายเจมส์เดินหน้า แจ้งยูทูปลบคลิป ยึดคืนรายได้เพลง เลิกคุยฯ กลายเป็นประเด็นไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับ น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หลังจากเกิดกรณีขัดแย้งกับ เก้า เกริกพล เพชรรัตน์ นักร้องหนุ่มใต้เสียงดี ดีกรี The Voice Kids 5 ที่ไปร่วมร้องเพลงในผลงานเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว จนเกิดประเด็นความบาดหมางขึ้นจนต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม
โพสต์ดังกล่าว
รายละเอียดของโพสต์ดังกล่าว
ทนายเจมส์เดินหน้า เชือด”เจนนี่” ลั่น!!ใครโกงต้องติดคุก โทษสูงสุดจำคุก 12 ปี แจ้งยูทูปลบคลิป ยึดคืนรายได้เพลง “เลิกคุยฯ”
กลายเป็นประเด็นให้ถูกขุดคุ้ยวิพากษ์วิจารณ์ไม่เว้นแต่ละวัน สำหรับ น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หลังจากเกิดกรณีข้อพิพาทกับ เก้า เกริกพล เพชรรัตน์ นักร้องหนุ่มใต้เสียงดี ดีกรี The Voice Kids 5
ที่ไปร่วมฟีจเจอร์ริ่งในผลงานเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว จนเกิดประเด็นความบาดหมางขึ้นจนต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม มิหนำซ้ำผลกระทบนี้ยังขยายวงกว้างแบบฉุดไม่อยู่
โดยทีมข่าวธราวุฒิ ขุดประเด็น ได้สอบถามความคืบหน้าทางคดีไปยัง นายนิติธร แก้วโต หรือทนายเจมส์ ซึ่งเจ้าของคดี ที่อาสาจะดูแลคดีนี้ให้ถึงที่สุด ได้เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า
“… เจนนี่ไม่มีท่าทีที่จะเจรจา ตนและผู้ใหญ่ฝ่ายเก้าจึงตัดสินใจเดินหน้าดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งกรณีส่วนแบ่งรายได้จากยูทูป
รวมถึงและกรณีโกงค่าตัวในการออกรายการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์นี้คดีจะเริ่มเดินหน้าและเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ทนายเจมส์ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับกรณีส่วนแบ่งรายได้จากยอดวิวยูทูป เพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ นั้นจะดำเนินตามขั้นตอน ดังนี้
1. ฟ้องเรียกส่วนแบ่งรายได้ตามข้อตกลง 30 : 70 ก่อน หากเจนนี่ไม่ยอมจ่ายหรือตกลงกันไม่ได้ จะดำเนินการในขั้นที่ 2 และ 3 ไปพร้อมกันคือ
ขั้นที่ 2 จะดำเนินการฟ้องตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ เรียกส่วนแบ่ง 50% ของรายได้จากยอดวิว
รายละเอียดของโพสต์ดังกล่าว
ขั้นที่ 3 ดำเนินการเพื่อให้มีการลบคลิป เพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ 3 ช่องทาง ประกอบด้วย
– ยื่นฟ้องศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้เจนนี่ทำการลบคลิป
– แจ้งผ่านระบบยูทูปให้ทำการลบคลิป
– ส่งหนังสือถึงยูทูปให้ดำเนินการลบคลิปดังกล่าว
หากมีการฟ้องตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ นอกจากฝ่ายโจทก์คือเก้า จะเรียกส่วนแบ่ง 50% ของรายได้ยูทูปจากเจนนี่แล้ว คดีดังกล่าวยังมีโทษปรับ 1-8 แสนบาท
หรือจำคุก 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย ซึ่งหากพิจารณาจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ทนายเจมส์ระบุแล้วถือว่าเป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งถ้าเจนนี่จะสู้ในคดีนี้
ในส่วนการโกงค่าตัวในการออกรายการทีวีนั้น ทนายเจมส์ ระบุว่าหากในการฟ้องเรียกส่วนแบ่ง 30% ของรายได้จากยูทูปไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะมีการฟ้องดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์
โดยภายในสัปดาห์นี้ตนจะไปขอหลักฐานการจ่ายเงินจากสถานีโทรทัศน์ หรือเจ้าของรายการทั้ง 4 รายการ และจะมีการแจ้งความเพื่อรักษาอายุความไว้ก่อน
เนื่องจากอายุความจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่รู้ว่ามีการยักยอก โดยจะดำเนินการแจ้งความที่ สน. ในท้องที่เกิดเหตุ 4 แห่งด้วยกัน และแยกเป็น 4 คดี
อย่างไรก็ตามในการเดินสายออกรายการนั้น มี 4 รายการที่เก้าถูกเจนนี่โกงค่าตัว จึงนับเป็น 4 คดี เจนนี่อ้างว่าเก้าไม่มีหลักฐานว่าเจนนี่จ่ายแค่ 500 บาท ดังนั้น เจนนี่ก็ต้องไปหาหลักฐานมาว่าเจนนี่จ่ายให้เก้าเท่าไหร่
ขณะที่เก้ามีหลักฐานที่โพสต์ในเฟซบุ๊กว่าได้ 500 จริง คดีนี้นอกจากเจนนี่จะต้องคืนเงินค่าตัวที่โกงไปแล้ว แต่ละคดีจะมีโทษปรับไม่เกิน 6 หมื่น และจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อรวมทั้ง 4 คดี โทษจำคุกสูงสุดอาจสูงถึง 12 ปี
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : Manager Online
อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวจะจบอย่างไรก็คงต้องติดตามตอนต่อไป
ภาพจาก รัชนก สุวรรณเกตุ
ภาพจาก รัชนก สุวรรณเกตุ
หากมีความคืบหน้าอย่างไรทีมงานจะรีบนำมาอัพเดททันที
ขอบคุณ ธราวุฒิ ขุดประเด็น